เจ้าของธุรกิจที่เปิดร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือร้านอาหาร คงได้ยินลูกค้าขอรหัสผ่าน WiFi อยู่บ่อยๆ เพราะทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตแทบจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ยิ่งในยุคนี้ที่เทรนการทำงานจากที่ไหนก็ได้เป็นที่นิยม (Work from Anywhere) ลูกค้าที่ใช้บริการย่อมคาจหวังอินเตอร์เน็ตที่เสถียร มากกว่าอินเตอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟน แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าหาธุรกิจได้ง่ายขึ้น มาทำความรู้จักกับ Facebook Wi-Fi เครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และช่วยทำการตลาดให้กับธุรกิจ
Facebook WiFi ทำอะไรได้บ้าง?
เพิ่มโอกาสในการพบธุรกิจด้วย Facebook WiFi
ลูกค้าวัยทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ (Work from Anywhere) อาจต้องการเปลี่ยนบรรยากาศอยู่บ่อยๆ หรือนักเรียน นักศึกษาที่เรียนออนไลน์ เพิ่มโอกาสในการพบธุรกิจของคุณด้วยฟีเจอร์ค้นหาธุรกิจที่มี Facebook Wi-Fi พร้อมให้บริการ ในแอปพลิเคชัน Facebook ของทุกคน ช่วยให้ธุรกิจโดดเด่นบนแผนที่ ที่ยังมีคู่แข่งน้อยราย
ปลอดภัยใช้งานง่าย สะดวกลดภาระงานของธุรกิจ
ใช้งานง่ายเพียงแค่ลูกค้า “เช็คอิน ใน Facebook หรือ ติดตามใน Instagram” ลดภาระของธุรกิจ มีโซลูชันมากมายที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจ ที่เห็นกันบ่อยๆอาจจะเป็นการใช้งานแบบที่มีคูปองให้ลูกค้าแล้วต้องกรอก Username และ Password หรือ Hotspot ที่นอกจากจะเพิ่มขั้นตอนให้ลูกค้าแล้ว ยังเสียโอกาสที่จะเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้นการให้รหัสผ่านเพื่อใช้ WiFi มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าจะมีผลกระทบอย่างไรได้บ้าง? เราได้เขียนอธิบาย พร้อมทดสอบเรื่อง ความปลอดภัย ไว้ตอนท้ายของบทความ
เก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ลูกค้าที่เช็คอินผ่าน Facebook WiFi
ในยุคนี้การตลาด กับเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่มาคู่กัน คงน่าเสียดายที่ปล่อยข้อมูลลูกค้าที่เคยมาใช้บริการแล้วทิ้งไปเฉยๆ Check-in from Wi-Fi Insights สามารถเก็บข้อมูลจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในแต่ละเดือน อีกทั้งยังบอกได้อีกว่ามีจำนวนลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำเท่าไหร่ ช่วยให้คุณวางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้น
Retargeting นำเสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่เคยมาใช้บริการ
เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ต้องเคยมีประสบการณ์ทำโฆษณาบน Facebook และที่เคยเห็นผ่านตากันมาบ้างคือ กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience) การลูกค้าที่ต้องการให้เห็นโฆษณา ที่การจะทำการทดสอบ หรือนำเข้าข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องที่ปวดหัวกับหลายธุรกิจสามารถสร้าง Custom Audience ได้จากลูกค้าที่เคยมาใช้ Wi-Fi เพื่อใช้ในการ Retargeting
เริ่มใช้ Facebook WiFi ได้อย่างไร?
- มีเพจธุรกิจบน Facebook และมีสิทธิ์ของผู้ดูแลเพจ
- เพจธุรกิจต้องมีที่ตั้ง หรือที่อยู่ในข้อมูลเพจ
- เราเตอร์รุ่นที่รองรับสามารถเช็คได้จาก เราเตอร์สำหรับ Facebook Wi-Fi
ตัวอย่างการใช้งานอินเตอร์เน็ตของลูกค้า
ลูกค้าของคุณสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้โดยไม่ต้องกรอกรหัสผ่าน ในตัวอย่างนี้ใช้ Facebook Wi-Fi ด้วยชื่อ(SSID) Free Wi-Fi by Connext System
รอสักครู่ Browser จะป๊อปอัพขึ้นมาในที่นี้ Default browser จะเป็น Chrome ที่ Login Facebook ไว้อยู่แล้วหากไม่ได้มีการ Login ค้างไว้ป๊อปอัพจะแสดงขึ้นมาให้ Login Facebook ก่อน
สามารถเช็คอินใน Facebook เพื่อใช้อินเตอร์เน็ต ในส่วนนี้ไม่ว่าลูกค้าจะเช็คอินเป็นแบบ Public หรือ Only me ก็จะสามารถใช้งาน Wi-Fi ได้เหมือนกัน
เมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว รอสักครู่อินเตอร์เน็ตจะสามารถใช้งานได้ โดยสังเกตได้จากป๊อปอัพแจ้งเตือนของ Facebook ทางมุมซ้ายล่างของหน้าจอ หรือ Icon Wi-Fi ทางมุมขวาล่างของหน้าจอ
การแก้ไข Facebook WiFi จากเพจธุรกิจ
ธุรกิจสามรถตั้งค่าได้โดยตรงจากเพจ โดยไปที่ Page Setting > Facebook Wi-Fi การตั้งค่าหลักๆก็จะมี 4 รายการ
- ระยะเวลาในการใช้อินเตอร์เน็ตที่ให้ลูกค้าใช้บริการ (Session length)
- ข้ามขั้นตอนการเช็คอินเพื่อใช้อินเตอร์เน็ต (Skip check-in)
- ข้อมูลของเพจธุรกิจ (Page information)
- การเชื่อมต่อระหว่างเพจธุรกิจกับเน็ตเวิร์ค (Wi-Fi networks)
ตั้งต่าระยะเวลาในการใช้อินเตอร์เน็ตที่ให้ลูกค้าใช้บริการ (Session length) มีหลายช่วงเวลาให้เลือก ตั้งแต่ 30 นาที ไปจนถึง 12 ชั่วโมง
การข้ามขั้นตอนการเช็คอินเพื่อใช้อินเตอร์เน็ต (Skip check-in) มีอยู่ 2 วิธีคือ
- A link to skip check-in จะมีปุ่มแสดงขึ้นมาให้ลูกค้ากดข้ามได้ทันที
- Wi-Fi Code ลูกค้าจำเป็นต้องกรอกรหัสผ่านเพื่อใช้งาน ในส่วนนี้ รหัสผ่านไม่จำเป็นต้องเหมือนกับเราเตอร์ หรือ Wi-Fi วงอื่นในที่เดียวกันเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากมี Security Protocol ที่เป็น Open หรือไม่มีรหัสผ่านนั่นเอง รหัสผ่านนี้จะเป็นการใช้งาน Guest Portal Facebook
ข้อมูลข้อเพจธุรกิจ (Page information) รายละเอียดส่วนนี้จะถูกนำไปแสดงทั้งหน้าเพจ แผนที่ รวมถึงการกรองในช่องค้นหาของ Facebook
และในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างเพจธุรกิจกับเน็ตเวิร์ค (Wi-Fi networks) สามารถทำได้เฉพาะการตัดการเชื่อมต่อ หรือ Disconnect ระหว่างเพจกับเคลือข่ายหากตัดการเชื่อมต่อไปจะต้องไปเริ่มตั้งค่าที่เราเตอร์ใหม่ทั้งหมด
การดูข้อมูลเชิงลึก
เมื่อเชื่อมต่อกับเพจธุรกิจเรียบร้อยแล้ว ใช้งานมาสักระยะนึงจะไปดูข้อมูลเชิงลึกได้ที่ไหน? ในส่วนของขั้นตอนนี้เราขอแนะนำให้ดูผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพราะ Facebook เองก็แนะนำเช่นนี้เหมือนกัน
โดยมาที่หน้าเพจธุรกิจเลือกที่ไอคอนฟันเฟืองมุมขวาบนของหน้าจอ จะพาไปที่เมนู ตั้งค่า (Setting) เมื่อเข้ามาในเมนูตั้งค่า (Setting) แล้ว เลือก Facebook Wi-Fi
เลือก ดูข้อมูลการเช็คอินเชิงลึก (See check-in insights) เพียงเท่านี้ก็สามารถดูข้อมูลเชิงลึกของการเช็คอินได้แล้ว *จะเห็นได้ว่าในเมนู Facebook Wi-Fi นี้ก็มีส่วนของการตั้งค่าเช่นเดียวกับที่เราได้เขียนไว้ด้านบน
และสุดท้าย การนำข้อมูลเชิงลึกไปสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience) Facebook Help ได้ระบุไว้ว่าจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีลูกค้าเช็คอิน Wi-Fi มากกว่า 100 ครั้ง
ความปลอดภัย
โดยส่วนใหญ่หลายคนมองข้ามในเรื่องของความปลอดภัย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่นร้านกาแฟที่เปิดให้ลูกค้าใช้ WiFi ด้วยการกรอกรหัสผ่าน และมีอุปกรณ์ IoT อย่างหลอดไฟที่สั่งงานได้ผ่านแอปพลิเคชันบน Smartphone ลูกค้าที่มีแอปพลิเคชันเดียวกัน เมื่อเข้ามาในเคลือข่ายอินเตอร์เน็ตจะสามารถสั่งงานอุปกรณ์ IoT ของคุณได้ทันที หรือแม้แต่กล้องวงจรปิดซึ่งอาจจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าแต่ก็ยังพอที่จะสามารถทำได้
ซึ่งในเรื่องความปลอดภัยข้างต้น Facebook Wi-Fi ได้เข้ามีช่วยอุดช่องโหว่ตรงนี้ โดยในบทความนี้เราจะทำการทดสอบให้เบื้องต้น
โครงสร้างพื้นฐานในเคลือข่าย
IP 4 วง และ 4 Wi-Fi SSID โดย
Free Wi-Fi by Connext System เป็น Facebook Wi-Fi ใช้วงไอพี 10.10.10.0/24
CONNEXT – Office ใช้วง IP 192.168.1.0/24
IoT Network by Connext System ใช้วง IP 192.168.10.0/24
Hotspot by Connext System ใช้วง IP 10.0.0.0/24
ในการทดสอบเราได้ทำการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์เข้ามาในเคลือข่าย ผ่าน Facebook Wi-Fi หลังจากเชื่อมต่อก็ทำการหา IP ของเครื่องทดสอบที่ได้รับมา
เครื่องทดสอบได้รับแจก IP 10.10.10.36
หลังจากที่ได้รับ IP แล้ว ได้ทดสอบโดยการ ping ไปหา Gateway และ Client อื่นในวง IP เดียวกันจะเห็นได้ว่า Packets ที่ส่งไป Loss 100% คือไม่สามารถโอนถ่ายข้อมูลกันในวงไอพีเดียวกันได้ หรือเรียกง่ายๆ คือหากันไม่เจอ
แล้วทำเช่นเดียวกันโดยการ Ping ไปหา Gateway และ Client ในวงอื่นก็จะเห็นได้ว่า Packets ที่ส่งไป Loss 100%